Monday, August 22, 2005

พี่จ๋า


โดย ผัดกะเพรา

พี่จ๋า
เคยได้ยินไหมจ๊ะ คำกล่าวที่เขาว่า "เมื่อเราพบงานที่ทำให้สุขใจแล้ว เราจะ(รู้สึกเหมือน)ไม่ต้องทำงานอีกเลย" เป็นคำกล่าวที่ได้ยินปุ๊บ ต้องมองกลับมาหาตัวปั๊บ คิดยอกย้อนว่าทุกวันนี้ เรารู้สึกเหมือนทำงานอยู่หรือเปล่าหนอ แล้วก็พบว่าชีวิตเรานี่เหนื่อยยาก ทำงานก็ด้วยฝืนใจ ไม่ได้สบายอย่างที่เขาว่า คิดไปแล้วใจก็อยากจะสอดส่ายหาสิ่งอื่น เผื่อว่าจะทำให้เราสุขกว่านี้ แต่สิ่งไหนล่ะที่จะทำให้เราสุขได้? คนที่กล่าวคำคมอันนั้นเขาได้พบความสุขของเขาแล้ว ส่วนเรา จะทำอย่างไรหนอ จึงจะได้เจอกับไอ้ความสุข ความสบายที่ว่า?

พี่จ๋า จะว่าไปคำกล่าวนั้นก็ฟังดูเป็นแรงบันดาลใจอยู่ แต่ฟังแล้วก็ใคร่จะต้องไว้หูข้างหนึ่งด้วย พี่ว่าพี่ไม่มีความสุขกับงานที่ทำ เพราะงานที่ทำอยู่นั้นไม่ให้ความสุขกับพี่ ลองถามคำถามนี้ให้ลึกๆ สิ่งที่เรียกว่า "ความสุข" สำหรับพี่ มันคืออะไร สิ่งที่ทำแล้วออกมาสวยๆงามๆ สิ่งที่ทำแล้วผู้คนเขาชอบใจ สิ่งที่ทำแล้วได้เงิน สิ่งที่ทำแล้วสบาย สิ่งที่ทำแล้วตัวเองได้เติบโตจากภายใน สิ่งไหนจ๊ะ?

ในงานทุกชนิดมันมีความเหนื่อยยากทั้งนั้นแหละจ้ะ ค่าตอบแทนที่เป็นเงินอาจเป็นแรงผลักดันให้รู้สึกว่าที่เราทำไปมันคุ้มค่า คุ้มเวลา แต่แรงบันดาลใจคือสิ่งที่ทำให้คนก้าวพ้นเหนือไปจากความเหนื่อยยากนั้น ทำให้คนทุ่มเทโดยไม่เกี่ยงงอนในเรื่องค่าตอบแทน คนจะมีแรงบันดาลใจได้ก็ต่อเมื่อมองเห็นคุณค่าของงานที่ทำ คุณค่านั้นมองง่ายๆคือ สิ่งที่ทำให้ตัวเราและเพื่อนมนุษย์เจริญเติบโตและพัฒนา อาจจะเป็นการพัฒนาทางวัตถุ ทางความคิด หรือทางจิตใจ พี่ลองมองดูสิจ๊ะ ว่างานที่ทำแล้วสบายนั้น ให้คุณค่าอย่างที่กล่าวมานี่ไหม?

ไม่เพียงแต่คุณค่าของงาน ที่สำคัญต่อมาคือต้องมองเห็นคุณค่าของตัวเองด้วยจ้ะ มีคนกล่าวไว้ว่า ชีวิตคนก็เหมือนกับแสงเทียน เมื่อถูกจุดสว่างแล้ว วันหนึ่งก็ต้องดับไป แต่ในขณะที่เรามีแสง ทำไมไม่ทำให้แสงของเราโชติช่วงที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ล่ะจ๊ะ? ใช้กำลังสมอง กำลังกาย กำลังใจที่มีส่องตัวเองให้สว่าง สิ่งที่มืดรอบด้านก็จะพลอยสว่างไปด้วย เราอาจจะไม่ได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของสายอาชีพในวันนี้ แต่ต้องให้แน่ใจว่า ณ ตำแหน่งที่ยืน เราได้ใฝ่พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว

การเรียนรู้จากงานคือสิ่งที่ทำให้เราเติบโตจ้ะ จุดที่เหนื่อยยากที่สุดของงานนั้นแหละ คือจุดที่เราจะได้ส่องสว่างที่สุด เมื่อส่องสว่าง เราก็มีความสุขได้จากภายใน โดยที่ไม่ต้องสอดส่ายหาจากที่ใดอื่น

พี่จ๋า พี่เห็นเหมือนหนูไหมจ๊ะว่าคำว่า "ความสุข" จากภายนอกนั้นมันเลือนรางเหมือนกับม่านหมอก เราไปจับต้องมันไม่ได้ เมื่อมีสุขโดยไม่มีที่มาได้ ก็ไร้สุขโดยไม่มีที่ไปได้เช่นกัน แต่คุณค่าเป็นสิ่งถาวรจ้ะ เมื่อตระหนักได้แล้ว มันก็ไม่หนีไปไหน พอมีคุณค่ามั่นคงอยู่ในใจ เราจะไม่มาคร่ำครวญถามถึงความสุขเลยจ้ะ เพราะคุณค่านั้นมันลึกล้ำกว่าความสุขมากมายนักเทียว.

2 comments:

Anonymous said...

พี่ก็ว่าเช่นกันเด้อ

Anonymous said...

คมเด้อ เห็นจิงด้วยจ้า ดีใจที่หาเจอ
jiew