Monday, November 28, 2005

นักคิด






โดย ส.

สองสามอาทิตย์นี้มา ฉันกำลังสนใจเรื่องการคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับ Product Design เจอบทสัมภาษณ์ดีไซน์เนอร์จากบริษัทหนึ่ง น่าสนใจดี ดีไซน์เนอร์เล่าถึงแรงบันดาลใจแรกๆที่ทำให้อยากเป็นนักออกแบบ ดีไซน์เนอร์คนนี้บอกว่าสมัยเป็นนักเรียนอยู่โรงเรียนมัธยม ทำงานขับรถสกู๊ตเตอร์ลุยหิมะไปส่งหนังสือพิมพ์ทุกเช้า รถลุยหิมะนี้ใช้ลำบากมาก เพราะมันหนัก แล่นไปก็ส่งเสียงหนวกหู แถมมีควันเหม็น เขาคิดว่ามันน่าจะดีกว่านี้ได้ เลยมานั่งลองคิดลองออกแบบดู เห็นว่าเข้าท่าดี ก็ส่งแบบไปยังบริษัทที่ผลิตเครื่องลุยหิมะนี้ หลายอาทิตย์ผ่านไป บริษัทตอบปฏิเสธกลับมาอย่างสุภาพ ส่งแคทตาล็อกสินค้ามาให้ แถมเสื้อยืด เสื้อแจ๊กเก็ตมาให้

เขาไม่ย่อท้อ เอาแบบมาแก้ไขอีก แล้วทำโมเดลดู เขียนแบบสำหรับการผลิต คิดแคมเปญโฆษณา แล้วเอาไปโชว์ให้บริษัทออกแบบผลิตภัณฑ์ดู บริษัทไม่ได้เอาผลงานเขามาคิดต่อ แต่กลับรับเขาเป็นพนักงานฝึกงาน เขาฝึกงานที่นั่นเรื่อยมาจนมั่นใจว่าตัวเองเป็นดีไซน์เนอร์จริงๆได้ หลังจากจบมหาวิยาลัย บริษัทก็จ้างเป็นดีไซน์เนอร์ประจำ

ฉันอ่านแล้วชอบใจในธรรมชาติกล้าคิดกล้าทำของเด็กที่ตอนหลังมาเป็นดีไซน์เนอร์คนนี้ เอาบทสัมภาษณ์นี้ไปเล่าให้ลีฟัง ลีหัวเราะแล้วบอกว่าตอนเขาเด็กๆ อายุสิบขวบเขาก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน บอกว่าตอนเด็กชอบออกไปดักสัตว์เล่น แต่เครื่องดักที่ซื้อมาไม่ค่อยดี เพราะอุปกรณ์ดักจากร้านทำจากเชือก ทำให้สัตว์แทะแล้วหนีออกไปได้ ลีมานั่งออกแบบใหม่เสียเท่ เปลี่ยนวัสดุให้เป็นเหล็ก แล้วก็ส่งจดหมาย พร้อมแบบ ใส่ซองติดแสตมป์ไปยังบริษัทขายเครื่องดักสัตว์นี้ คิดตามประสาเด็กซื่อๆว่าบริษัทน่าจะพัฒนาสินค้าตามความคิดนี้ ไม่ได้คิดหวังจะขายไอเดีย หรือต้องการชื่อเสียงอะไรอย่างที่ผู้ใหญ่คิด สองสามอาทิตย์ถัดมา บริษัทตอบมาแบบสุภาพเหมือนกัน บอกว่าขอบคุณ แต่แบบจะเอามาทำไม่ได้เพราะเขามีเงื่อนไขเรื่องลิขสิทธิ์ เรื่องซับซ้อนที่ลีอายุสิบขวบไม่เข้าใจ จำได้แต่ว่าบทสรุปก็คือว่าเขาบอกว่าขอบคุณ แต่ไม่เอา

ว๊าว... ฉันทึ่งสังคมนี้จัง ไม่ได้ทึ่งตรงที่ว่าความคิดที่เสนอได้รับเลือกหรือไม่ได้รับเลือก แต่ทึ่งที่คนเชื่อมั่นในเสรีภาพว่าเขาทำได้ เพราะเสรีภาพในการเสนอความคิดเป็นส่วนประกอบของชีวิตอย่างที่ไม่ต้องมีใครตั้งคำถามนี่เอง คนถึงได้มีความกล้าที่จะผลักดันประสิทธิภาพของตัวเอง ไปให้ไกลที่สุดเท่าที่คนๆนั้นจะจินตนาการไปได้ โดยไม่หวั่นระแวงเรื่องความเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ความคิดดีๆนั้นกลั่นมาจากสมองอันบริสุทธิ์ ที่ไม่มีเรื่องคุณวุฒิวัยวุฒิเป็นเครื่องกีดขวาง

คนกล้าทำ เริ่มมาจากคนกล้าคิด คนกล้าคิด เพราะคนมีอิสระในการคิด คนมีอิสระในการคิด เพราะสังคมสนับสนุนให้คนเสนอความคิด และที่สังคมสนับสนุนให้คนเสนอความคิด ก็ย้อนกลับมาที่เพราะคนแต่ละคนเห็นความสำคัญของความคิดของแต่ละคน นี่แหละกระมังที่เป็นเหตุผลว่าทำไม "freedom of individuals" คือคุณค่าที่เขาตั้งไว้ให้เลิศเลอนัก เพราะ freedom นี้เองที่นำอิสระทางความคิดมาสู่การพัฒนา ซึ่งสอดคล้องกับธรรมชาติที่แท้ของมนุษย์.

No comments: